งานชิ้นที่ 2


 
งานชิ้นที่  2

ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน

1. กิจกรรมหน้าเสาธง
กิจกรรมหน้าเสาธงของโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราชเริ่มที่เวลา 08:15 – 
08 : 30  น. โดยมีกิจกรรมดังต่อไปนี้
-   เคารพธงชาติ  โดยจะมีผู้นำร้องเพลงชาติและนักเรียนจะร้องเพลงพร้อมกัน
-   สวดมนต์ไหว้พระ โดยนักเรียนทั้งหมดกล่าวพร้อมกัน
              - นักเรียนสงบนิ่ง
              - บริหารร่างกายโดยการเต้นแอโรบิก (เฉพาะวันศุกร์)
              - นักเรียนไปรวมตัวกันที่ลานกิจกรรมเพื่อทำกิจกรรมโฮมรูม

 
 

2. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน  เป็นกิจกรรมที่จัดอย่างเป็นกระบวนการด้านรูปแบบ วิธีการที่หลากหลาย ในการพัฒนาผู้เรียนด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์และสังคม มุ่งส่งเสริมเจตคติคุณค่าชีวิต ปลูกฝังคุณธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์ ส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจตนเอง สร้างจิตสำนึกในธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ปรับตัวและปฏิบัติตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ประเทศชาติ   และดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข  ซึ่งกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราชจัดขึ้น ได้แก่   กิจกรรมชุมนุม  กิจกรรมลูกเสือ และเนตรนารี



 

3. การจัดทำระเบียนสะสม
จากการศึกษาระเบียนสะสมหรือสมุดรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนรายบุคคล(ปพ.6 )นั้น ในสมุดรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนรายบุคคล (ปพ.6) มีข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลของนักเรียน เช่น ข้อมูลส่วนตัวนักเรียน  ผู้ปกครองของนักเรียน  เวลาเรียน บันทึกการเจริญเติบโตของผู้เรียน  ซึ่งจะมีตั้งแต่ชั้น  ป.1 – ป.มี ระดับผลการเรียนของนักเรียน  ความคิดเห็นของครูที่ปรึกษาและผู้ปกครองนักเรียน  ผลการประเมินการอ่าน  คิดวิเคราะห์และเขียน  ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์  ผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และตัดสินผลการผ่านช่วงชั้น   ผลการประเมินคุณภาพการศึกษาพื้นฐานระดับท้องถิ่น/ระดับชาติ  ซึ่งในการจัดทำ ปพ. นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือและพัฒนานักเรียนให้ครบทุกด้านจนนักเรียนผ่าน เกณฑ์การประเมินและเป็นบุคคล ที่บรรลุตามหลักสูตรที่สถานศึกษากำหนด




 
 
4. การจัดกิจกรรม  Home  room
การจัดกิจกรรม  Home  room  เป็นประจำทุกวันหลังจากที่นักเรียนเข้าแถวหน้าเสาธงเสร็จทุกตอนเช้า  เพื่อเตรียมความพร้อมให้นักเรียนก่อนเข้าเรียน

           กิจกรรมโฮมรูม
การจัดกิจกรรมโฮมรูม เรื่อง  การระลึกถึงพระคุณของบิดามารดา
วันที่   25   เดือน  กันยายน  พ.ศ.  2555   ใช้เวลา   25   นาที
สถานที่ : โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช (ประถมศึกษา)
 
เนื้อหาสาระสำคัญ
            การระลึกถึงพระคุณของบิดามารดาเป็นหน้าที่บุตรทุกคน  ควรจะตอบแทนพระคุณท่านเมื่อมีโอกาส โดยมีการเปรียบเทียบเป็นนิทาน  เรื่องต้นแอปเปิ้ลกับเด็กน้อย   ต้นไม้ในเรื่องคือพ่อแม่เมื่อเราเป็นเด็กตัวเล็กๆเรารักที่จะเล่นกับพ่อกับแม่   เมื่อเราโตขึ้น เราทอดทิ้งพ่อและแม่และกลับมาหาท่านเมื่อเราต้องการบางสิ่งบางอย่าง หรือเมื่อเรามีปัญหาไม่ว่าอย่างไร...พ่อ และแม่ของเราก็จะอยู่และให้ทุกสิ่งอย่างที่ท่านทำได้

จุดประสงค์
1.             เพื่อให้นักเรียนได้ตระหนักถึงพระคุณของบิดามารดาผู้ให้กำเนิดเรามา
2.             เพื่อให้นักเรียนรู้จักตอบแทนพระคุณของบิดามารดาโดยวิธีการต่างๆ
3.             เพื่อสร้างความบันเทิงแก่ผู้เรียน  เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนการเรียน
4.             เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกทักษะการฟัง  และจับใจความสำคัญจากเรื่องที่ได้ฟัง
 
สื่อ/วัสดุอุปกรณ์
           -   ภาพต้นแอปเปิ้ล

ลำดับการดำเนินกิจกรรมโฮมรูม
ขั้นนำ
1.             นักศึกษาแนะนำตัว
2.             ถามนักเรียนเกี่ยวการมาโรงเรียน ใครให้คุณพ่อคุณแม่มาส่งที่โรงเรียนทุกเช้าบ้าง
3.             ถามคำถามนักเรียน วันเด็กที่ผ่านมา  นักเรียนทำตัวเป็นเด็กดีของคุณพ่อคุณแม่อย่างไรบ้าง
4.             เกริ่นนำเกี่ยวกับการเล่านิทาน  โดยถามคำถามว่า ใครชอบฟังนิทานบ้างเอ่ย  วันนี้มีนิทานสนุกๆมาเล่าให้ฟัง 
ขั้นกิจกรรม
เล่านิทานเรื่อง ต้นแอปเปิ้ลกับเด็กน้อย  โดยแสดงละครประกอบการเล่า
ขั้นสรุปและประยุกต์ใช้
1.             สรุปข้อคิดที่ได้จากการฟังนิทานเรื่อง  ต้นแอปเปิ้ลกับเด็กน้อย
2.             ถามคำถามนักเรียน ทบทวนความจำเกี่ยวกับเรื่องที่เล่า

การประเมินและการสะท้อนผลหลังการจัดกิจกรรมโฮมรูม
         1.  การร่วมมือของนักเรียนในการให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรม  ประเมินจากสังเกตการตอบคำถาม  และการตั้งใจฟัง
          2. นักเรียนได้รับความบันเทิงจากการทำกิจกรรม

ผลการจัดกิจกรรม
                นักเรียนให้ความร่วมมือในกิจกรรมเป็นอย่างดี มีความสนใจ และเกิดความสนุกสนานในการร่วมกิจกรรม สามารถสังเกตเห็นได้ชัดจากปฏิกิริยาโต้ตอบของนักเรียน มีนักเรียนเพียงเล็กน้อยไม่ให้ความร่วมมือ แต่มีครูประจำชั้นช่วยดูแลและตักเตือนนักเรียน ทำให้กิจกรรมดำเนินไปได้ด้วยดี

ความคิดเห็นของผู้อำนวยการ
              ดำเนินการได้ดี พยายามกระตุ้นให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะนักเรียนที่นั่งด้านหลังจะขาดความสนใจ ต้องพยายามสังเกตให้ทั่วถึง ให้นำข้อมูลข้อบกพร่องไปปรับปรุงแก้ไขในการดำเดินการครั้งต่อๆไป  และขอให้มีการประชุมวางแผนดำเนินการตามขั้นตอน PDCAทุกครั้งจะทำให้กิจกรรมบรรลุผลสำเร็จ                                                                                                   


ต้นแอปเปิ้ลกับเด็กน้อย 

ผู้พากษ์ :              นานมาแล้ว มีต้นแอปเปิ้ลใหญ่อยู่ต้นนึง 
และก็มีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึงชอบเข้ามาอยู่ใกล้ๆและเล่นรอบๆต้นไม้นี้ทุกๆวัน
                            ขาปีนขึ้นไปบนยอดของต้นไม้ และก็กินผลแอปเปิ้ล
และก็นอนหลับไปภายใต้ร่มเงาของต้นแอปเปิ้ล
เขารักต้นไม้ และต้นไม้ก็รักเขา
เวลาผ่านไป เด็กน้อยโตขึ้น และเขาไม่มาวิ่งเล่นรอบๆต้นไม้ทุกวันอีกแล้ว
                           วันหนึ่ง เด็กน้อย กลับมาหาต้นไม้ เด็กน้อยดูเศร้า  
ต้นไม้                "มาหาฉัน และมาเล่นกับฉันเหรอ" ต้นไม้ถาม
เด็กน้อย             "ฉันไม่ใช่เด็กเล็กๆแล้วนะ ฉันไม่อยากเล่นรอบๆต้นไม้อีกแล้ว
                             ฉันต้องการของเล่น ฉันอยากได้เงินไปซื้อของเล่น" เด็กน้อยตอบ
ต้นไม้                 "ฉันไม่มีเงินจะให้ ....เก็บลูกแอปเปิ้ลของฉันไปขายสิ 
  เพื่อเอาเงินไปซื้อของเล่น " ต้นไม้ตอบ 
ผู้พากษ์ :               เด็กน้อยตื่นเต้นมาก เขาเก็บลูกแอปเปิ้ลไปหมด และจากไปอย่างมีความสุข
 หลังจากเขาเก็บแอปเปิลไปหมดแล้ว เขาไม่กลับมาหาต้นไม้อีกเลย 
 ต้นไม้ดูเศร้า......
 วันหนึ่ง เด็กน้อยกลับมา  เขาดูโตขึ้น ต้นไม้รู้สึกตื่นเต้นมาก
ต้นไม้                 "มาหาฉัน และมาเล่นกับฉันเหรอ" ต้นไม้ถาม
เด็กน้อย             "ฉันไม่มีเวลามาเล่นหรอก ฉันมีครอบครัวแล้ว
 ฉันต้องทำงานเพื่อครอบครัวของฉันเอง
  เราต้องการบ้าน ช่วยฉันได้ไหม"
ต้นไม้ :                 "ฉันไม่มีบ้านจะให้ แต่... ตัดกิ่งก้านของฉันไปสิ ....เอาไปสร้างบ้าน"   
ผู้พากษ์ :               ดังนั้นเด็กน้อยตัดกิ่งก้านทั้งหมดของต้นไม้ไป และจากไปอย่างมีความสุข
  อีกครั้งที่ต้นไม้ถูกทิ้งให้เดียวดาย และเศร้า....
  วันหนึ่งในฤดูร้อน เด็กน้อยกลับมา ต้นไม้ดีใจมาก 
ต้นไม้ :                  "มาหาฉัน และมาเล่นกับฉันเหรอ"
เด็กน้อย :              "เปล่า ฉันรู้สึกผิดหวังกับชีวิต และเริ่มแก่ขึ้น
  ฉันอยากแล่นเรือไปพักผ่อนไกลๆ ให้เรือฉันได้ไหม"
 
ต้นไม้ :                  "ใช้ลำต้นของฉันได้ เอาไปสร้างเรือ เพื่อเธอจะได้เล่นเรือไปและมีความสุข" 
ผู้พากษ์ :                ดังนั้น เด็กน้อยตัดลำต้นของต้นไม้ไปสร้างเรือ เขาล่องเรือไป และไม่เคยกลับมาอีกเลย
    หลายปีผ่านไป ในที่สุดเด็กน้อยกลับมา คราวนี้เขาดูแก่ลงไปมาก
ต้นไม้ :                   "ฉันเสียใจ ฉันไม่เหลืออะไรจะให้อีกแล้ว
                               ไม่มีผลแอปเปิ้ลให้ ....ฉันไม่มีลำต้นให้ปีนอีกแล้ว"
 
เด็กน้อย :               "ฉันไม่มีฟันจะกินแล้ว
   ฉันปีนไม่ไหว และฉันก็แก่แล้ว"
ต้นไม้ :                  "ฉันไม่มีอะไรเหลือให้อีกแล้ว สิ่งเดียวที่เหลือ มีเพียงรากที่กำลังจะตาย" 
เด็กน้อย :              "ตอนนี้ฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว แค่อยากได้ที่พักพิง ฉันเหนื่อยมาหลายปีแล้ว"
ต้นไม้ :                  "รากของต้นไม้แก่ๆ จะเป็นที่พักพิงของหนูได้ ......
   มาสิ นั่งลงข้างๆฉัน ...หลับให้สบาย....." 
ผู้พากษ์ :               เด็กน้อยนั่งลงข้างๆ ต้นไม้ดีใจ ยิ้ม...และน้ำตาไหล........
ผู้พากษ์ :               นี่เป็นเรื่องสำหรับทุกๆคน  ต้นไม้ในเรื่องคือพ่อแม่
                             เมื่อเราเป็นเด็กตัวเล็กๆ  เรารักที่จะเล่นกับพ่อกับแม่...
                             เมื่อเราโตขึ้น  เราทอดทิ้งพ่อ และแม่  และกลับมาหาท่าน
                             เมื่อเราต้องการบางสิ่งบางอย่าง หรือเมื่อเรามีปัญหา

ไม่ว่าอย่างไร...พ่อ และแม่ของเราก็จะอยู่และให้ทุกสิ่งอย่างที่ท่านทำได้
หวังเพียงเรามีความสุข 
คุณอาจจะคิดว่า "เด็กน้อย" ในเรื่องโหดร้าย
แต่นั่นคือความจริงที่สะท้อนให้เห็นว่าพวกเราทำกับผู้มีพระคุณอย่างไร
........ แล้วต้นไม้ของคุณล่ะ ....... เด็กน้อย .....??

 


 
5. การเยี่ยมบ้านนักเรียน
การเยี่ยมบ้านนักเรียน  เป็นวิธีการศึกษา  รวบรวมข้อมูล  ที่ช่วยให้ครูได้ทราบชีวิตความเป็นอยู่และสภาพแวดล้อมทางบ้านของนักเรียน โดยการพบปะสนทนากับผู้ปกครองนักเรียน เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น เจตคติซึ่งกันและกัน ตลอดจนเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดี ระหว่างบ้านกับโรงเรียน ทำให้ครูได้ข้อมูลเกี่ยวกับนักเรียนอย่างชัดเจน เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริม ป้องกัน และแก้ไขปัญหาของนักเรียนได้อย่างถูกต้องยิ่งขึ้น
6. การส่งเสริม / ช่วยเหลือนักเรียน
ในการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ครูควรให้ความเอาใจใส่กับนักเรียนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน แต่สาหรับนักเรียนกลุ่มเสี่ยง/มีปัญหานั้น จำเป็นอย่างมากที่ต้องให้ความดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดและหาวิธีการช่วยเหลือทั้งการป้องกัน และการแก้ไขปัญหา โดยไม่ปล่อยปละละเลยนักเรียนจนกลายเป็นปัญหาของสังคม การสร้างภูมิคุ้มกัน การป้องกันและแก้ไขปัญหาของนักเรียน จึงเป็นภาระงานที่ยิ่งใหญ่และมีคุณค่าอย่างมากในการพัฒนาให้นักเรียนเติบโตเป็นบุคคลที่มีคุณภาพของสังคมต่อไป

 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น